
ดอกรักเร่
ดอกรักเร่(Dahlia) หรือคนไทยมักเรียกว่า ดอกรักแรก เป็นไม่พุ่มเนื้ออ่อน ที่มีลักษณะดอกทรงกลม กลีบดอกออกซ้อนทับกันแน่น กลีบดอกหลากหลายสีสัน ดอกบานนาน 1 สัปดาห์ และมีหลายสายพันธุ์ ส่วนรากจะทรงกลมคล้ายหัว ดอกรักแร่นอกจากจะเป็นดอกไม้ให้ความสวยงามแก่มนุษย์แล้วยังมีประโยชน์หลายด้าน เช่น ประโยชน์ด้านความงาม ประโยชน์ด้านทางยารักษาโรค และประโยชน์ทางด้านอาหาร หรือเรียกได้ว่าดอกรักเร่สามารถนำมารับประทานได้และดีต่อสุขภาพด้วย เช่นนี้ดอกรักเร่จึงเป็นที่นิยมปลูกกันทั่วโลกเพื่อประดับตามบ้านรวมไปถึงนำมาเป็นยารักษาด้วยนั่นเอง
ความเป็นมาของดอกรักเร่
ตามหลักฐานที่ถูกค้นพบเกี่ยวกับดอกรักเร่ พบว่าดั่งเดิมแล้วมีถิ่นกำเนิดมาจากแถบในประเทศอเมริกา ก่อนช่วงศตวรรษที่ 17 ซึ่งในช่วงนั้นคนโบราณชาวบ้านในเม็กซิโกได้คิดค้นก่อนที่จะพบว่าดอกรักเร่มีสรรพคุณทางยารักษาโรคต่าง ๆ ได้ อาทิ โรคหัวใจ โรคทางเดินหายใจเป็นต้น ก่อนที่ชาวอเมริกาจะนิยมนำมาปลูกเพื่อประดับบ้านและนำมาใช้เป็นยา ซึ่งภายหลังนักพฤกษศาสตร์ได้ค้นพบดอกรักเร่สายพันธุ์อื่น ๆ ตามมา ดอกรักเร่ได้รับความนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย แต่ไม่ค่อยนิยมปลูกในประเทศไทยอันเนื่องมาจากมีชื่อที่ไม่ค่อยมงคลมากนัก ต่อมาคนไทยจึงได้ปรับเปลี่ยน “ดอกรักเร่” ใหม่ว่า “ดอกรักแรก”

ชีววิทยาของดอกรักเร่
ดอกรักเร่ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dahlia hybrids อยู่ในอาณาจักรของ Plantae และถูกจัดให้อยู่ในวงค์ของ Asterales ซึ่งอยู่ในตระกลูเดียวกันกับดอกทานตะวัน เป็นไม้พุ่มเนื้ออ่อน ส่วนของลำต้นจะแตกกิ่งขาสาออก ส่วนของรากจะมีลักษณะกลมใหญ่คล้ายหัว ลักษณะของใบคล้ายรูปไข่หรือรูปหัวใจ ส่วนของดอกจะมีขนาดใหญ่ กลีบดอกออกเรียงซ้อนทับกันหนาแน่นกลม สีของกลีบหลายสีสันขึ้นอยู่กับตามสายพันธุ์และสภาพแวดล้อม กลีบดอกจากบานเต็มที่และอยู่ได้นานเพียง 1 สัปดาห์ก่อนที่จะร่วงโรย การขยายพันธุ์สามารถทำได้ 3 วิธี คือ การแยกหัว การปักชำ และการเพาะเมล็ดเป็นต้น
สีของดอกรักเร่
ดอกรักเร่ นอกจากจะมีสายพันธุ์ที่หลากหลายแล้ว ส่วนของดอกยังมีความงดงาม ชวนมอง น่าสัมผัส ดอกเอกลักษณ์ของกลีบดอก นอกจากนี้ดอกรักเร่ยังมีสีสันที่หลากหลาย พร้อมกับความหมายแตกละสีแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ดอกรักเร่สีแดง ความหมาย ความรัก ความหลงไหล
- ดอกรักเร่สีขาว ความหมาย ความบริสุทธิ์ ความสงบ
- ดอกรักเร่สีชมพู ความหมาย ความอ่อนหวาน ความโรแมนติก
- ดอกรักเร่สีเหลือง ความหมาย ความร่าเริง ความสดใส
- ดอกรักเร่สีส้ม ความหมาย ความอบอุ่น ความสนุขสนาน
- ดอกรักเร่สีฟ้า ความหมาย ความสบายใจ ความสงบ
- ดอกรักเร่สีม่วง ความหมาย ความลึกลับ ความโรแมนติก
สายพันธุ์ของดอกรักเร่
ดอกรักเร่ เป็นดอกไม้ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาเพื่อมอบให้เป็นของขวัญให้กับสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ ซึ่งสายพันธุ์ของดอกรักเร่ที่พบเห็นตามทั่วโลก สามารถแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม หลัก ๆ ได้ดังนี้
- กลุ่มดอกรักเร่ปอมปอม (Pompon) มีลักษณะดอกเป็นทรงกลม กลีบดอกเรียกซ้อนทับกันแน่น
- กลุ่มดอกรักเร่แคคตัส (Cactus) มีลักษณะดอกเป็นทรงกลม กลีบดอกเรียงซ้อนทับกันแน่น ปลายกลีบแหลมยาว
- กลุ่มดอกรักเร่แอสเตอร์ (Aster) มีลักษณะเป็นทรงกลม กลีบดอกเรียงสลับไปมา
- กลุ่มดอกรักเร่ซันเบิร์สท์ (Sunburst) มีลักษณะเป็นทรงกลม กลีบดอกเรียงซ้อนสลับไปมา ปลายกลีบแหลม
- กลุ่มดอกรักเร่ฟอร์มบูล (Form Ball) มีลักษณะเป็นทรงกลม กลีบดอกซ้อนทับกันแน่น

ดอกรักเร่ มีประโยชน์อย่างไรกับมนุษย์
ดอกรักเร่นอกจากจากมีหลายสายพันธุ์ หลากหลายสีสันแล้ว ดอกรักเร่ยังมีคุณประโยชน์มากมายต่อมนุษย์หลายประการ ประโยชน์ที่เกี่ยวกับด้านความงาม คือ การนำมาปลูกเพื่อประดับไว้ภายในบ้าน หรือตามสวน นำมาจัดใส่แจกัน และการจัดเป็นช่อ มอบให้กับคนพิเศษตามโอกาสต่าง ๆ ประโยชน์ทางด้านอาหาร ดอกรักเร่ มีรสชาติหวานมันจึงสามารถนำมาประกอบเป็นอาหารได้ ส่วนหัวที่อยู่ใต้ดินยังอุดมไปด้วยวิตามินชนิดต่าง ๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี วิตามินอี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมเป็นต้น นอกจากนี้ดอกรักเร่ ยังมีประโยชน์ด้านยาสมุนไพรมีสรรพคุณทายางช่วยแก้โรคหัวใจ โรคมะเร็งได้ด้วย
การขยายพันธุ์ของดอกรักเร่
ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับการขยายสายพันธุ์เพื่อตอบแทนหรือการคืนความสมดุลให้กับระบบนิเวศ เมื่อสิ่งมีชีวิตใช้ไปแล้วก็ต้องปลูกเพื่อทดแทนด้วยเช่นเดียวกัน และสำหรับวิธีการขยายสายพันธุ์ของดอกรักเร่ก็มีเพียงไม่กี่วิธี สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมืออะไร เพียงแต่ระหว่างช่วงของการเพาะปลูกควรหมั่นรดน้ำและค่อยดูแลไม่ให้โดนการเคลื่อนย้ายไปมาบ่อย ๆ เพราะอาจทำให้รากหลุดขาดได้ สำหรับการขยายสายพันธุ์ดอกรักเร่มี 3 วิธีดังนี้
- การแบ่งหัว วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่นิยมเพาะปลูกกันมากที่สุดและอัตราการโตเร็วที่สุด ควรเลือกส่วนหัวที่กำลังมีต้นอ่อนงอกขึ้นมา หลังจากได้หัวที่ต้องการก็สามารถย้ายที่ปลูกใหม่ได้เลยพร้อมกับเลือกดินที่ร่วนซุย ในช่วงนี้ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
- การปักชำ วิธีนี้ช่วงที่เหมาะคือช่วงฤดูร้อน เลือกกิ่งก้านที่สมบูรณ์แข่งแรง ตัดให้เป็นแนวเฉียง หลังจากนั้นก็นำไปปักในพื้นที่ที่ร่วนซุย หมั่นรดน้ำสม่ำเสมอ
- การเพาะเมล็ด วิธีนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะออกดอก โดยจะต้องเพราะต้นกล้าจากเมล็ดรอประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นนำต้นกล้าไปปลูกตามสถานที่ที่เตรียมไว้ หมั่นรดน้ำอยู่เสมอ คอยใส่ใจไม่ให้โดนเคลื่อนย้าย และรอเวลาออกดอก
ดอกไม้ ความรู้เกี่ยวกับดอกไม้ : blossomin.info
ความรู้เกี่ยวกับดอกไม้เพิ่มเติม : กล้วยไม้(orchid)