
ดอกดาวเรือง
ดอกดาวเรือง (Marigold) เป็นพืชดอกล้มลุกที่มีอายุสั้น และถูกจัดให้อยู่ในวงค์เดียวกับดอกทานตะวัน ดอกดาวเรืองมีลักษณะเป็นกลีบดอกเรียงซ้อนทับกันแน่น ทั้งยังมีสีที่เด่นชัดมองเห็นแต่ไกล เช่น สีเหลือง สีส้มเป็นต้น ด้วยสายพันธุ์ที่หลากหลายจึงถูกแบ่งแยกออกเป็นสามกลุ่มหลัก ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการจำแนกคือ กลุ่มดาวเรืองอเมริกัน (American Marigold) , กลุ่มดาวเรืองฝรั่งเศส (French Marigold) และกลุ่มดาวเรืองซิกเน็ต (Signet Marigold) ส่วนด้านการดูแลขยายพันธุ์เป็นพืชดอกที่ปลูกง่ายโตเร็วสามารถทำเองได้มี 2 วิธีในการปลูกคือ การเพราะเมล็ด และการปักชำนั่นเอง ปัจจุบันคนทั่วโลกนิยมเพื่อประดับ หรือการนำมาไหว้บูชา นอกจากนี้แล้วยังนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย
ความเป็นมาของดอกดาวเรือง
ดอกดาวเรืองมีอายุมายาวนานกว่าเป็นพันปี ซึ่งในทวีปเอเชียตามความเชื่อสืบต่อกันมารวมไปถึงหลักฐานตามสถานที่ ตามบทกลอน รวมไปถึงตามความเชื่อของที่ชาวอินเดียและชาวจีนที่นำดอกดาวเรืองไปบูชาเทพเจ้า รวมไปถึงการนำเอาดอกดาวเรืองไปทำเป็นยารักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคท้องเสีย โรคบิด และโรคเกี่ยวกับตา นอกจากนี้ชาวจีนยังนำเอาดอกดาวเรืองไปต้มด้วยความร้อนแล้วนำผ้าลงไปย้อมเพื่อให้เกิดลวดลายสีสันที่สวยงามอีกด้วย และต่อมาในประเทศไทยก็ได้เริ่มเอาดอกดาวเรืองมาปลูกเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ดอกดาวเรืองจึงถูกนำมาใช้งานในด้านต่าง ๆ มากมายในปัจจุบันเป็นพืชดอกทางเศษฐกิจที่ดีอีกชนิดเลยทีเดียว

ชีววิทยาดอกดาวเรือง
ดอกดาวเรือง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Tagetes erecta L. อยู่ในอาณาจักรของ พืช และถูกจัดให้อยู่ในวงค์ของ Asteraceae หรือเป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับดอกทานตะวัน เป็นพืชดอกล้มลุกที่มีอายุสั้น ลักษระของดอกมีกลีบเรียงซ้อนทับกันแน่นเป็นชั้น ๆ กลับดอกยังมีหลากหลายสีสันทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และปัจจัยต่าง ๆ ภายในสภาพแวดล้อมแห่งนั้นและสภาพแร่ธาตุดินอีกด้วยที่ส่งผลให้ดอกออกมาหลายสีและสีที่มักพบคือ เหลือง ส้ม แดง นอกจากนี้ยังมีสีอื่น ๆ ที่หาดูได้ยากเช่น ขาว ม่วง และครีมเป็นต้น ภายในดอกมีเกสรตัวผู้เป็นจำนวนมาก ส่วนเกสรเพศเมียมีรังไข่ที่อยู่ใต้กลีบดอก เมื่อดอกแก่จะแห้งเหลืองและมีเมล็ดของภายในสามารถนำไปเพาะปลูกต่อได้
สายพันธุ์ของดอกดาวเรือง
ดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้อายุสั้นที่ถูกจัดให้อยู่ในวงค์เดียวกันกับดอกทานตะวัน (Asteraceae) และเป็นดอกไม้ที่มีความหมายที่ดี เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข ความรื่นเริง ความโชคดี และความสำเร็จ จึงเป็นที่นิยมปลูกกันทั่วโลก ซึ่งมีสายพันธุ์ที่หลากหลายสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ได้ดังนี้
- กลุ่มดาวเรืองอเมริกัน (American Marigold) มีขนาดดอกที่ใหญ่ กลีบดอกเรียงซ้อนทับหนาแน่น
- กลุ่มดาวเรืองฝรั่งเศส (French Marigold) มีขนาดดอกค่อนข้างเล็ก กลีบดอกเรียงชั้นเดียว
- กลุ่มดาวเรืองซิกเน็ต (Signet Marigold) มีขนาดของดอกที่เล็ก กลีบดอกเพียงชั้นเดียว
นอกจากนี้สายพันธุ์ของดอกดาวเรืองที่นิยมปลูกมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่
- สายพันธุ์ซอฟเวอร์เรน (Sovereign) เป็นสายพันธุ์ดาวเรืองอเมริกัน มีดอกสีเหลืองสด
- สายพันธุ์ทอรีดอร์ (Toreador) เป็นสายพันธุ์ดาวเรืองอเมริกัน ออกดอกสีส้มสด
- สายพันธุ์ดับเบิล อีเกิล (Double Eagle) เป็นสายพันธุ์ดาวเรืองอเมริกัน ออกดอกสีเหลืองสด
- สายพันธุ์เรด มาเรตต้า (Red Marietta) เป็นสายพันธุ์ดาวเรืองฝรั่งเศส ออกดอกสีแดงสด
- สายพันธุ์นอธตี้ มาเรตต้า (Naughty Marietta) เป็นสายพันธุ์ดาวเรืองฝรั่งเศส ออกดอกสีแดงเข้ม

สีของดอกดาวเรือง
ดอกดาวเรืองนอกจากจะมีหลายสายพันธุ์แล้ว ยังมีสีสันที่หลากหลายด้วย มีทั้งแบบสีเดียวทั้งดอก และสีผสมภายในดอก สีของดอกดาวเรืองยังมีความพิเศษคือจะสามารถออกดอกสีอ่อนหรือสีเข้มก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม สภาพภูมิอากาศในพื้นที่แห่งนั้น ซึ่งสีของดอกดาวเรืองสามารถแยกออกได้เป็นทั้งหมด 3 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มสีเหลือง กลุ่มนี้มักพบเจอได้ทั่วไปปลูกง่ายที่สุด สามารถแยกออกเป็น เหลืองสด เหลืองอ่อน และเหลืองส้ม
- กลุ่มสีส้ม กลุ่มสีนี้มักจะพบเจอรองลงมา สามารถแยกออกเป็น ส้มสด ส้มเข้ม ส้มอมเหลือง
- กลุ่มสีอื่น ๆ กลุ่มสีนี้ค่อนข้างพบเห็นได้ยาก เช่น สีชมพู สีม่วง สีครีม สีขาว และสีดำ
ดอกดาวเรือง มีประโยชน์อย่างไรกับมนุษย์
สำหรับดอกดาวเรืองนอกจากจะมีหลายสายพันธุ์ จนสามารถดแบ่งแยกออกเป็นกลุ่ม ๆ นอกจากจะสวยความสวยงามยังมีประโยชน์ต่อมนุษย์มากมายหลายด้าน ซึ่งความเชื่อของคนในสมัยโบราณมักจะมีนิยามว่าเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี ความสำเร็จ ความเคารพนับถือ การให้เกียรติ นอกจากนี้ยังนิยมนำมาใช้เป็นดอกไม้กราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังมีคุณประโยชน์ทางด้านอาหารสามารถนำมาประกอบอาหารได้ เช่น แกง ต้มยำ ผัด ยำและสลัด หรือชาดื่มกิน มีสรรพคุณทางยารักษามากมาย เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และอัลไซเมอร์เป็นต้น
การขยายพันธุ์ของดอกดาวเรือง
ดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้ที่มีช่วงอายุสั้นและการปลูกเพื่อขยายสายพันธุ์ก็มีเพียง 2 วิธีเท่านั้น คือ การเพาะปลูกด้วยเม็ด ที่เป็นวิธีที่นิยมทำกันมากที่สุด และเห็นผลได้เร็วที่สุดแต่วิธีนี้เราไม่สามารถแบ่งแยกได้เนื่องจากเมล็ดที่หว่านออกไปนั้นจะขึ้นเองตามสภาพแวดล้อมนั้น และอีกวิธีคือ การปักชำ ซึ่งวิธีนี้ค่อนข้างที่จะใช้เวลานาน แต่ในขณะเดียวกันวิธีนี้จะได้ต้นลักษณะเดียวกันกับต้นแม่นั้นเอง และควรเลือกต้นที่สมบูรณ์ที่สุด หากทำการปักชำแล้วควรหมั่นดูแลรดน้ำเป็นประจำเพื่อให้รากยาวแข็งแรงสามารถนำไปปลูกต่อในพื้นที่อื่นได้
ดอกไม้ ความรู้เกี่ยวกับดอกไม้ : blossomin.info
ความรู้เกี่ยวกับดอกไม้เพิ่มเติม : ดอกไฮเดรนเยีย (hydrangea)