httpsblossomin.info
ดอกเบญจมาศ (Chrysanthemum)

ดอกเบญจมาศ

ดอกเบญจมาศ (Chrysanthemum) เป็นพืชดอกล้มลุก มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ปลูกง่าย โตเร็ว พื้นที่ที่เหมาะสมควรเลือกสถานที่หมดแสงเร็ว เนื่องจากดอกไม้ชนิดนี้มีช่วงการบานค่อนข้างสั้น มีสีสันที่หลากหลาย โดยมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีนและญี่ปุ่น ซึ่งคนสมัยโบราณมีความเชื่อว่าเป็นดอกไม้แห่งความศรัทรา ความยั่งยืน จึงนิยมนำมาปลูกเพื่อเก็บไปกราบไหว้บูชาพระเจ้า ภายหลังก็ได้มีการเริ่มขยายสายพันธุ์ และตัดแต่งกรรมพันธุ์ให้ได้สีดอกที่หลากหลายเพิ่มขึ้น ดอกเบญจมาศยังมีสรรพคุณทางยารักษาโรคต่าง ๆ ได้มากมาย และสามารถนำมาสกัดเพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ด้านความงาม อย่างเช่น น้ำหอม โลชั่น ครีมอาบน้ำ เป็นต้น ถือว่าเป็นดอกไม้อีกหนึ่งชนิดที่ทุกคนทั่วโลกต่างนิยมปลูก นิยมนำมาใช้ในหลายโอกาสสำคัญ

ความเป็นมาของดอกเบญจมาศ

ตามตำนานที่เล่าขานมาอย่างยาวนานว่าดอกเบญจมาศนั้นมีถิ่งกำเนิดมาจากแถบประเทศในเอเชียอย่างประเทศจีนและญี่ปุ่น ซึ่งคนในสมัยโบราณของชาวจีนมีความเชื่อว่าดอกเบญจมาศนั้นมีความหมายว่าเป็นตัวแทนแห่งความรัก ความศรัทรา และความยั่งยืน ชาวจีนโบราณจึงนิยมนำมากราบไหวบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสริมสิริมงคล ส่วนตำนานความเชื่อของคนโบราณในญี่ปุ่นดอกเบญจมาศถูกยกให้เป็นดอกไม้ชั้นสูง โดยถูกยกให้เป็นดอกไม้ประจำราชวงค์ และได้ปลูกประดับในพระราชวังอีกด้วย ทั้งนี้คนญี่ปุ่นโบราณยังนิยมนำมาแช่ในเหล้า และนำมาดื่มในเทศคิคุ โนเนะ เซกกุ เพื่อเฉลิมฉลองรับความโชคดี เหตุนี้จึงสันนิฐานได้ว่า ดอกเบญจมาศมีมายาวนานกว่า 2 พันปี และในปัจจันดอกเบญจมาศยังนิยมปลูกันทั่วโลกอีกด้วย

ดอกเบญจมาศ (Chrysanthemum)

ชีววิทยาของดอกเบญจมาศ

ดอกเบญจมาศ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Chrysanthemum อยู่ในอาณาจักรของ Plantae และถูกจัดให้อยู่ในวงค์ Asteraceae หรือเป็นพืชในตระกูลเดียวกับดอกทานตะวัน แต่ดอกเบญจมาศจะมีความพิเศษทางด้านช่วงอายุของวันจะสั้นกว่าดอกไม้ชนิดอื่น ๆ กล่าวคือ ดอกเบญจมาศจะมีอายุช่วงของดอกบานสั้นเพียงประมาณ 13 ชั่วโมง หากต้องการปลูกควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงเพียงครึ่งวันก็พอ ส่วนของดอกออกเป็นช่อ จับกลุ่มเป็นกระจุกแน่น กลีบดอกรีบยาว ปลายแหลมเล็กน้อย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ใบเลี้ยงเดี่ยวเรียงสลับกัน รูปทรงไข่ ส่วนขอบใบหยัก ด้านลำต้นจะมีขนอ่อนปกคลุม เป็นไม้ล้มลุกที่สามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งปักชำ แตกหน่อ และตอนกิ่ง

สายพันธุ์ของดอกเบญจมาศ

ดอกเบญจมาศเป็นดอกไม้ที่ออกดอกสวยงาม เมื่อมองแล้วรู้สึกผ่อนคลายสบายใจที่นิยมปลูกกันแพร่หลายทั่วโลก ทั้งยังเป็นดอกไม้ที่มีประโยชน์มากมายต่อมนุษย์เรา โดยทั่วไปแล้วดอกเบญจมาศถูกแบ่งกลุ่มตามลักษณะ เช่น ดอกเดี่ยว ดอกซ้อน ดอกพุ่ม และดอกช่อ เป็นต้น นอกจากนี้ในประเทศไทยเองก็นิยมปลูกดอกเบญจมาศเช่นกัน ซึ่งสายพันธุ์ที่นิยมปลูกในไทย ได้แก่ 

  • สายพันธุ์ขาวการะเกด เป็นดอกเดี่ยว สีขาว 
  • สายพันธุ์ขาวตาก เป็นดอกเดี่ยว สีขาว 
  • สายพันธุ์เหลืองตาก เป็นดอกเดี่ยว สีเหลือง
  • สายพันธุ์เหลืองอินทนนท์ เป็นดอกซ้อน สีเหลือง
  • สายพันธุ์เหลืองเกษตร เป็นดอกซ้อน สีเหลือง

สีของดอกเบญจมาศ

ดอกเบญจมาศนอกจากจะมีหลายสายพันธุ์แล้ว ยังมีสีที่หลากหลายด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์สภาพอากาศรวมไปถึงสภาพแวดล้อมในการปลูกอีกด้วย ซึ่งในประเทศจีนและญี่ปุ่นดอกเบญจมาศถือเป็นดอกไม้มงคลอีกหนึ่งชนิด ที่นิยมนำมากราบไหว้บูชาเทพเจ้า โดยทั่วไปแล้วดอกเบญจมาศจะมีสีแล้วความหมายแตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้

  • สีเหลือง หมายถึง ความสุข ความโชคดี ความมงคล และการชื่นชมยิ่นดี
  • สีแดง หมายถึง ความรัก ความน่าหลงไหล ความสุขทางใจ
  • สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ ความอ่อนโยน ความสดใส และความจริงใจ
  • สีชมพู หมายถึง ความโรแมนติก ความอ่อนหวาน และความสวยงาม
  • สีม่วง หมายถึง ความน่าเชื่อถือ ความสง่างาม ความบ่งบอกถึงเอกลักษณ์
  • สีส้ม หมายถึง ความสุข ความสนุกสนาน ความเป็นมิตรภาพที่ดี
  • สีเขียว หมายถึง การเติมเต็ม การมีความหวัง และความมั่นคง

ดอกเบญจมาศมีประโยชน์อย่างไรกับมนุษย์

สำหรับดอกเบญจมาศนอกจากจะเป็นดอกไม้ที่น่าชวนมองดูแล้วมีเสน่ห์ดึงดูดสายตาแล้วยังมีประโยชน์มากมายต่อมนุษย์เราในทุกมิติอีกด้วยทั้งยังมีความหมายดี ๆ และมีประโยชน์ทางด้านความงาม เกี่ยวกับการนำมาตกแต่งข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ประโยชน์มางด้านอาหาร นำเอาสีของดอกไปทำเป็นต้นแบบสีอาหาร หรือการนำไปประกอบเป็นอาหาร ทั้งยังมีสรรพคุณทางยา เช่น แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้อ่อนเพลีย ซูกำลัง บำรุงหัวใจ และอีกมากมาย และสุดท้ายทางด้านอุตสาหกรรม เช่น ทำน้ำหอม เครื่องสำอาง สีย้อมผ้า ครีมบำรุงผิว เป็นต้น

การขยายพันธุ์ของดอกเบญจมาศ

นอกจากจะมีประโยชน์ในทุกด้านต่อมนุษย์เราแล้ว ก็ยังเป็นพืชดอกที่สามารถเป็นวงจรนิเวศได้อย่างครบถ้วนอีกด้วย ช่วยให้ดินอุ้มน้ำ รักษาหน้าดินไม่ก่อให้ผุพังทลาย ทั้งยังเป็นแหล่งอาหารให้กับสิ่งมีชีวิตใต้ดิน และเป็นแหล่งอาหารกับสัตว์ปีกจำพวกแมลงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี หากจะใช้อย่างเดียวก็อาจจะสูญสิ้นหมดไป ดังนั้นการเพาะปลูกเพื่ออนุรักษ์ใช้อย่างหมุนเวียนสามารถทำได้ด้วยการปักชำกิ่ง วิธีนี้คนจะนิยมทำมากที่สุด การแตกหน่อ ควรเลือกจากต้นที่สมบูรณ์และมีอายุ 3 ปีขึ้นไปจึงจะเหมาะสม และวิธีสุดท้ายคือการตอนกิ่ง วิธีเหล่านี้ควรเลือกปฏิบัติอย่างเหมาะสมขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และสภาพแวดล้อมในการปลูกด้วย

ดอกไม้ ความรู้เกี่ยวกับดอกไม้ : blossomin.info

ความรู้เกี่ยวกับดอกไม้เพิ่มเติม : เดซี่ หรือ ดอกเดซี่ (daisies)